งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจพฤติกรรมและวัตถุประสงค์ในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เพื่อประเมินระดับความตระหนักด้านจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ของนักศึกษาในด้านต่างๆ งานวิจัยนี้ใช้วิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) เพื่อหาค่าร้อยละและค่าเฉลี่ย และใช้สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) คือ การทดสอบ Chi-Square เพื่อหาความสัมพันธ์ของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ของกลุ่มตัวแปรต่างๆ และการทดสอบค่าที (t-test) เพื่อทดสอบความคิดเห็นต่อการตระหนักถึงจริยธรรมของกลุ่มนักศึกษา โดยใช้แบบสอบถามปลายเปิดที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.915 สำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาแบบออนไลน์ จากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน จากประชากรทั้งหมด 8,127 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างการคำนวณตามสูตรยามาเน่และเก็บแบบแบ่งชั้น จากนักศึกษาทั้ง 6 คณะ
             ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมที่นักศึกษารู้จักและใช้ปัญญาประดิษฐ์มากที่สุด คือ ChatGPT Siri และ Gemini เรียงตามลำดับ นักศึกษาใช้ปัญญาประดิษฐ์ให้เกิดประโยชน์ในด้านความรู้และทักษะปัญญา ด้านการสื่อสาร และการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี มากที่สุดเรียงตามลำดับ และผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่านักศึกษามีความตระหนักต่อจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ในภาพรวมในระดับสูง ( Mean = 4.1928 S.D. = 0.59585 ) และพบว่ารายด้านทุกด้านอยู่ในระดับสูงด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านมนุษย์เป็นผู้ควบคุมปัญญาประดิษฐ์เพื่อความยั่งยืนของมนุษยชาติ ด้านภาระความรับผิดชอบ ด้านความเป็นส่วนตัว ด้านความมั่นคงและปลอดภัย ด้านความไว้วางใจ ด้านความเป็นธรรม เท่าเทียมและไม่แบ่งแยก ด้านความโปร่งใสและอธิบายได้ และการทดสอบสมมติฐานทางสถิติพบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครมีความตระหนักต่อจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ใระดับสูง (p < 0.05) สะท้อนให้เห็นว่านักศึกษาไทยในปัจจุบันมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประเด็นด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์